ผลวิจัยพบคนใช้รถยนต์มีความสุขลดลง จริงไหมถามใจเธอดู?
จากสภาพปัญหาการจราจรบ้านเรา ไม่ต้องอ้างอิงผลการวิจัยจากต่างประเทศก็พอจะเดาออกได้ว่า การที่ต้องไปนั่งอยู่ในรถยนต์หลายๆชั่วโมง และค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไม่ได้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แถมสุขภาพจิตย่ำแย่เพิ่มขึ้นเสียอีกจริงไหมครับ?
และก็มีผลการวิจัยช่วยตอกย้ำความคิดนี้อีกที จากประเทศอังกฤษยืนยันได้ว่า คนที่เดินทางด้วยวิธีอื่น ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การปั่นจักรยาน การใช้รถโดยสารสาธารณะ มีความสุขมากกว่าคนใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งผลการวิจัยนี้มาจากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยแองเลียตะวันออก เก็บข้อมูลมานานกว่า 18 ปี จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนชาวเมืองในประเทศอังกฤษกว่า 18,000 คน ถูกเปิดเผยโดย Factcoexit
จากการศึกษายังชี้ว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทาง จะมีความรู้สึกหลับเต็มตื่นมากขึ้น รู้สึกว่าชีวิตพวกเขามีคุณค่ามากขึ้น รวมถึงการใช้บริการรถสาธารณะอาจจะช้า หรือไม่ได้ดั่งใจบ้าง แต่คนใช้บริการเหล่านี้กลับรู้สึกเป็นเหมือนการได้พักผ่อนไปในระหว่างการเดินทาง ในขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวกลับต้องมีสมาธิในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา บางครั้งทำให้รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวในสังคม
บางครั้งการเดินทางด้วยการพาตัวเองไปใช้บริการสาธารณะบ้าง อาจทำให้เรามีชีวิตชีวามากขึ้นก็เป็นไปได้ แต่ไม่รู้ว่าจะใช้สถานการณ์นี้กับบ้านเราได้ไม่? ไม่ได้ตัดพ้อว่ารถสาธารณะบ้านเราบริการไม่ดี แต่มีบ่อยครั้งที่เราเห็นเป็นอย่างนั้น จริงไหมล่ะครับ?
ที่มา :: http://auto.sanook.com/8415/
Comments are closed.