สารบัญ
หลายคนเกิดความสงสัยว่าในแต่ละปีที่ทำประกันภัยรถยนต์ไว้จะสามารถ เคลม อะไรได้บ้าง เพราะการใช้รถของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนใช้รถทุกวันความเสี่ยงย่อมมีมากกว่า แต่ บางคนใช้รถน้อยกว่าอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ว่าเหตุการณ์แบบไหนจะสามารถเคลมกับประกันภัยรถยนต์ได้ วันนี้โปรประกันได้คัดมา 9 เรื่อง 9 เหตุการณ์ทั่วไปซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนคงอาจไม่รู้มาก่อนว่าจะสามารถใช้สิทธิ์เคลมรถกับบริษัทประกันภัยได้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยนะคะ
1. หินกระเด็นใส่
จัดได้ว่าเป็นประเด็นยอดฮิตเลยก็ว่าได้สำหรับคนใช้รถ เนื่องจากในทุกๆวันที่เราใช้รถบนท้องถนนสังเหตุได้ว่าจะมีเศษหินก้อนเล็กหรือใหญ่ปะปนกันอยู่ ยิ่งถ้าเราผ่านไปบริเวณที่มีเขตก่อสร้างก็จะพบเจอได้ง่าย ซึ่งโอกาสที่รถคันหน้าจะทับเศษหินแล้วกระเด็นมาโดนกระจก หรือ ตัวรถของเรานั้นมีค่อนข้างสูง ทำให้ผลที่ตามมาคือกระจกร้าว และ ตัวถังรถเป็นลอยถลอก ดังนั้น หินกระเด็นใส่รถเคลมได้ไหม? โปรประกันมั่นใจและยืนยันได้เลยว่าคุณสามารถติดต่อแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ได้ตามปรกติเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวจัดว่าเป็นอุบัติเหตุนะคะ
2. ยางแตก หรือ ระเบิด
ถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ไม่แพ้หินกระเด็นใส่เลยก็ว่าได้ เนื่องจากยางเป็นส่วนประกอบหลักของรถยนต์ที่ต้องทำหน้าที่หมุนไปกับล้อตลอดเวลาที่รถมีการเคลื่อนตัว ถ้าในระหว่างทางเกิดเหยียบเศษหินหรือของมีคมก็อาจจะส่งผลทำให้ยางแตก หรือ ระเบิดได้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เราสามารถแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัยได้ตามปรกตินะคะ แต่สิ่งสำคัญที่คนใช้รถอย่างเราควรจะรู้ไว้คือ บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกิน 50% พูดง่ายๆว่าครึ่งนึงของมูลค่ายางเส้นนั้นนั่นเอง เพราะยางจัดว่าเป็นอะไหล่ที่มีการเสื่อมสภาพจึงทำให้ทางบริษัทประกันภัยไม่สามารถรับผิดชอบได้เต็มจำนวน อย่างไรในการเบิกเคลมค่าใช้จ่ายในกรณีที่สำรองจ่ายไปก่อนนั้น เราควรเก็บยางเดิมที่ได้รับความเสียหาย พร้อมแนบใบเสร็จค่าใช้จ่ายให้กับทางบริษัทประกันภัยเพื่อประกอบการเบิกจ่ายสินไหมด้วยนะคะ ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณดังกล่าวคุณสามารถแจ้งเคลมกับทางประกันภัยได้ตามปรกตินะคะ
3. น้ำยาแอร์
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนใช้รถอย่างเราคาดไม่ถึงว่าบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครอง โดยปรกติแล้วของเหลวและน้ำมันหล่อลื่น เช่น น้ำมันเครื่อง, น้ำยาหม้อน้ำ ฯลฯ ทางบริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบให้เลยทุกกรณีเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แล้วหมดไปยากที่จะตรวจสอบว่าสึกหรอไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ และส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นล้วนมาจากการใช้งานทั้งนั้นจึงไม่สามารถรับประกันให้ได้ แต่สำหรับน้ำยาแอร์นั้นทางบริษัทประกันภัยรับผิดชอบให้ตามปรกติในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ดังนั้นคุณสบายใจได้เลยว่าในส่วนของน้ำยาแอร์ทางบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบให้นะคะ
4. หนูกัดสายไฟ
หลายคนอาจมองว่าไม่น่าจะเคลมกับทางบริษัทประกันได้ดูแล้วไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ในมุมของประกันภัยมองว่าเรื่องนี้เป็นเหตุสุดวิสัยเพียงแต่คู่กรณีนั้นไม่ใช้รถยนต์ด้วยกัน ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้คุณสามารถแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัยได้ตามปรกตินะคะ
5. ตกหลุม
บางคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่น่าจะถึงขั้นใช้สิทธิ์เคลมประกันภัยเพราะส่วนใหญ่เส้นทางในเมืองหรือต่างจังหวัดบางที่ก็เป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งในทุกวันที่เราใช้รถก็จะต้องเจออยู่แล้ว แต่ในทางกลับกัน ถ้าวันนึงเกิดขับรถตกหลุมขึ้นมาแล้วล้อแม็กซ์,ยาง หรือตัวถังของรถได้รับความเสียหายขึ้นมาก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุ ดังนั้นในเหตุการณ์แบบนี้คุณสามารถโทรแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ได้ตามปรกตินะคะ
6. สิ่งของหล่นใส่
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โปรประกันได้คัดออกมาจากหลายคนที่ถามเข้ามา เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเป็นประสบการณ์ที่บางคนได้เจอกับตนเองหรือคนใกล้ตัวเล่าให้ฟัง ต้องบอกให้ทราบกันเลยว่า ถ้าสิ่งของหล่นใส่รถของเรา เช่น กล่องหล่นใส่หลังคารถ,สีหยดใส่หลังคา หรือ แม้แต่น้ำปูนจากไซต์งานก่อสร้างกระเด็นมาโดนรถของเราก็ถือว่าเป็นอุบัติเหตุ ดังนั้น ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเราสามารถแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยได้ตามปรกตินะคะ ซึ่งทางบริษัทประกันภัยจะไปเรียกร้องค่าเสียหายกับทางอาคารสถานที่,บริษัทรับเหมา หรือบุคคลที่มาทำละเมิดกับรถของเราภายหลังค่ะ
7. กุญแจสูญหาย
เป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่คาดคิดว่าบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครอง คุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ ประกันภัยรับผิดชอบคุ้มครองให้ แต่ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องเกิดจากการถูกลักขโมย,ฉกชิงวิ่งราว หรือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้กุญแจรถของเราเสียหาย ดังนั้นถ้าเกิดเหตุตามที่กล่าวมานี้คุณสามารถไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจจากนั้นก็ติดต่อแจ้งบริษัทประกันภัยเปิดเคลมได้ตามปรกตินะคะ แต่ถ้าใครทำตกหรือสูญหายเอง แล้วไปแจ้งความว่าถูกขโมย นอกจากประกันภัยจะไม่รับผิดชอบแล้วอาจจะเจอข้อหาแจ้งความเท็จ อีกทั้งมีโทษเป็นคดีอาญาเลยก็ได้นะคะ
8. ยางอะไหล่สูญหาย
ถือเป็นเรื่องที่เจอค่อนข้างบ่อยในกลุ่มของคนที่ใช้รถกระบะหรือรถที่มียางอะไหล่อยู่ด้านนอกซึ่งบางครั้งก็ไม่ทันได้สังเกตุมารู้ตัวอีกทีก็หายไปแล้ว ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องตื่นเต้น ทางบริษัทประกันภัยรับผิดชอบให้ตามปรกตินะค่ะ ถ้าถูกขโมยหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วยางอะไหล่ได้รับความเสียหายก็จะเข้าเงื่อนไขดูแลให้ตามปรกติ ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจจากนั้นก็แจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ต่อไปคะ
9. เติมน้ำมันผิด
เป็นเรื่องสุดท้ายของวันนี้ที่ทางโปรประกันจะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า สามารถเคลมกับทางบริษัทประกันภัยที่ทำไว้ได้ตามปรกตินะคะ จริงแล้วอาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่น่าจะเคลมกับทางประกันภัยได้เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด,อุบัติเหตุ หรือ ประมาทเลินเล่อ ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามการเติมน้ำมันผิดจัดว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรถ้าเติมประเภทเดียวกันคงไม่เป็นไรแต่ถ้าเติมผิดประเภทไปแล้วบอกเลยว่าส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์แน่นอน เช่น รถใช้ดีเซลเติมเบนซิล รถใช้เบนซิลเติมดีเซล ดังนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นขอให้ทุกท่านแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันภัยก่อนอันดับแรก ห้ามสตาร์ทเครื่องหรือเคลื่อนย้ายรถโดยพละการเพื่อจะได้ไม่ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมกับเครื่องยนต์นะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลทั้ง 9 เรื่องของโปรประกันคงเป็นประโยชน์กับทุกท่านได้เยอะพอสมควรเลย เพราะบางเรื่องเราอาจจะนึกไม่ถึงเลยว่าทางบริษัทประกันภัยจะให้ความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คราวหน้าทางโปรประกันจะมีเรื่องน่ารู้อะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างต้องติดตามนะคะ “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจทุกการเดินทางนะคะ”