สารบัญ
ก่อนที่จะไปดูวิธีการเลือกซื้อยางเปอร์เซ็นต์ เราไปดูว่ายางเปอร์เซ็น (ยาง%) คืออะไร? กันก่อนนะคะ
ยางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) คือ ยางมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหรืออาจจะยังไม่ผ่านการใช้งานมาเลย โดยมีการนำมาขายต่อให้ผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนยางที่แต่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องการซื้อของใหม่มือหนึ่งในราคาเต็ม การซื้อยางมือสองเพื่อใช้ชั่วคราวจึงเป็นทางเลือกของหลายๆคน แต่ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้รถด้วย ไม่ควรคำนึงถึงราคาเพียงอย่างเดียว
ยางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) มาจากไหน?
คำว่ายางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) หรือ ยางรถยนต์มือสอง มีที่มาจากหลายแหล่ง ไม่ได้หมายความว่าเป็นยางที่ผ่านการใช้งานบนถนนมาแล้วอย่างเดียว อาจเกิดได้หลายกรณี ดังนี้
- เจ้าของรถใหม่ป้ายแดง อยากเปลี่ยนยางใหม่ จึงทำการถอดออกขายให้กับร้าน ยางที่ถอดออกมาจึงนับว่าเป็นยางมือสองไปแล้ว และนำมาซื้อขายในตลาดยางมือสอง
- ยางที่เจ้าของรถยนต์ใช้งานไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ต้องการเปลี่ยนยางใหม่ กรณีนี้หากมีการไปซื้อยางใหม่ที่ร้าน ทางร้านจะรับซื้อยางเก่า(รับเทิร์น)และนำยางนั้นมาขายต่อเป็นยางเปอร์เซ็นต์
- ยางรถยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ บางประเทศมีกฎหมายควบคุมการใช้งานยางรถยนต์ เมื่ออายุการใช้งานครบกำหนดจะต้องทำการเปลี่ยนยางใหม่ทันที ยางกลุ่มนี้ก็จะถูกส่งต่อไปยังประเทศที่มีความต้องการใช้ยางมือสอง
ตลาดซื้อขายยางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) หรือ ยางรถยนต์มือสอง เป็นแบบไหน?
ปัจจุบันมีการซื้อขายยางมือสองกันหลากหลายช่องทาง ประกอบด้วย
- ซื้อผ่านหน้าร้านจำหน่ายยางทั่วไปมีข้อดี คือ เราได้เลือกซื้อยางด้วยตัวเอง สามารถตรวจสอบสภาพยางก่อนที่เราจะซื้อได้ด้วยตัวเอง และเมื่อซื้อแล้วทางร้านก็สามารถเปลี่ยนใส่รถเราได้ทันที
- ซื้อขายกันผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น หน้าเวปไซต์ของทางร้านจำหน่ายยาง หรือ ผ่านแพตฟอร์มโซเชียลมิเดียต่างๆ
7 วีธีการเลือกยางเปอร์เซ็นต์
1. ดูวันเดือนปีที่ผลิต
ในยางรถยนต์ทุกเส้นจะมีการระบุวันผลิตยางเป็นตัวเลข 4 หลัก บนแก้มยาง เช่น 0922 เลขคู่หน้าจะเป็นการระบุสัปดาห์ที่ผลิตยาง (ใน 1 ปี จะมี 52 สัปดาห์) เลขสองตัวหน้าคือผลิตสัปดาห์ที่ 9 ของปีที่ผลิต ส่วนเลขสองตัวหลังคือปี ค.ศ.ที่ผลิตคือ ปี 2022 เท่านี้เราก็สามารถทราบช่วงเวลาที่ผลิตยางเส้นนี้แล้ว
2.ดูดอกยาง
ดูที่ดอกยางตรงหน้ายางว่ายังเหลือเยอะหรือไม่ โดยดูจากสายตา หรือจะใช้ไม้บรรทัดวัดเทียบกันยางใหม่ก็ได้เช่นกัน ยางที่ดีควรมีดอกยางเพื่อใช้ในการยืดเกาะถนน และใช้ในการรีดน้ำออกจากยางกรณีฝนตก
3.การเลือกขนาดยาง
ยางต้องตรงกับขนาดล้อของรถยนต์ของเรา โดยดูจากขนาดยางดังนี้ เช่น 185/65R15
185 = ความกว้างของหน้ายาง
65 = ความสูงของแก้มยาง
R15 = ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อ ( ตัวเลขนี้สำคัญ หากไม่ตรงกับของรถเราจะใส่กันไม่ได้)
4.โครงสร้างยาง
เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยโครงสร้างของยางที่จะนำมาใช้ ไม่ควรบิดเบี้ยว บวม มีรอยแตก หรือฉีกขาด
5. เนื้อยางต้องนิ่ม
การตรวจสอบอาจจะลองใช้นิ้วจิ้มไปที่ตัวยางหากกดลงไม่แข็ง ก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่ถ้าหากแข็งกดไม่ลง ไม่ควรนำมาใช้งานเนื่องจากจะไม่ยึดเกาะถนนและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
6.อายุของยาง
อายุของยางต้องไม่ควรเกิน 3 ปี หากยางมีอายุหลายปีถึงแม้จะไม่ได้ใช้งานก็ตาม แต่ก็อาจเสื่อมคุณภาพไปตามกาลเวลา ดังนั้นควรจะดูที่อายุจากวันที่ผลิตประกอบด้วยทุกครั้ง
7.ราคาต้องไม่แพง
ราคาถูกแพงก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย แต่เราพอจะเปรียบเทียบราคาได้ โดยดูจากราคาของยางมือหนึ่ง หรือตามเวปไซต์ต่างๆที่มีประกาศขายยางมือสองร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน โดยปกติราคาควรลดลงมามากกว่า 50%ของราคามือหนึ่ง
ด้วยในเศรษกิจปัจจุบันราคาสินค้าต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่ารายจ่ายของแต่ละคนก็เพิ่มขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ,ค่าอาหาร, ค่าโดยสาร,ไหนจะค่าประกันรถยนต์,ค่าพ.ร.บ. ,ค่าภาษีรถยนต์ และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้หลายคนอาจจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเพิ่มขึ้น โดยหนึ่งในค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ของเราก็อาจจะประหยัดได้ด้วยการเปลี่ยนเป็นใช้ยางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยด้วยนะคะ เพราะอย่าลืมว่ายางที่ผ่านการใช้งานมาแล้วสภาพก็ไม่ได้ดีเหมือนสภาพของใหม่ ยางเปอร์เซ็นต์ (ยาง%) หรือ ยางรถยนต์มือสองเป็นแค่ทางเลือกเท่านั้นค่ะ
ที่สำคัญอย่าลืม! ประกันรถยนต์ สำคัญไม่แพ้กัน รถทุกคันควรมีไว้ เพราะหากเกิดเหตุขึ้นมาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ,ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ,ความเสียหายทรัพย์สินของคู่กรณี ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด ประกันภัยจะเข้ามารับผิดชอบส่วนนั้นให้นะคะ