ประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อ กับไม่ระบุชื่อ แตกต่างกันอย่างไร?
ก่อนที่เราจะพูดถึงว่า ประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อ หรือ ไม่ระบุชื่อ แตกต่างกันอย่างไร? เรามารู้จักกับประเภทของการประกันภัยรถยนต์ ก่อนครับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- การประกันภัยแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ การประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ เป็นการประกันภัยที่ใช้มาแต่ดั้งเดิมในประเทศไทยซึ่งใน การประกันภัยประเภทนี้จะคุ้มครองความรับผิด และความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดในระหว่างการใช้หรือการขับขี่ของบุคคลใดๆก็ตาม ที่ใช้หรือขับขี่โดยได้รับความยินยอมจากผู้อาประกันภัย ทั้งนี้ภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อยกเว้น ที่ปรากฏในกรมธรรม์ประกันภัย
- การประกันภัยแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ การประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ เป็นการประกันภัยที่มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ในประเทศไทย โดยหลักการที่สำคัญสำหรับการประกันภัยประเภทนี้ คือ จะคุ้มครองความรับผิด หรือความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะที่มีบุคคลที่ระบุชื่อในกรมธรรม์เป็นผู้ขับขี่ ในการทำประกันรถยนต์ประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่นั้น ผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ที่ได้รับความคุ้มครองได้ถึง 2 คน แต่จะระบุคนเดียวก็ได้
ในกรณีที่ระบุ 2 คนนั้น การคิดคำนวณเบี้ยประกันภัย จะใช้ผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นฐานในการคำนวณเบี้ยประกันภัย ซึ่งปัจจัยที่ใช้เป็นตัวกำหนดความเสี่ยงสำหรับการประกันภัยระบุชื่อผู้ขับขี่ เพิ่มเติมจากการประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่เป็น 4 ช่วงอายุ ดังนี้
- อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
- อายุ 36-50 ปี ส่วนลด 15%
- อายุ 25-35 ปี ส่วนลด 10%
- อายุ18-24 ปี ส่วนลด 5%
สำหรับรถยนต์ที่ผู้เอาประกันภัยจะนำมาทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขื่ได้นั้น จะต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้เป็นส่วนบุคคลเท่านั้น รถยนต์ที่ใช้รับจ้างสาธารณะหรือใช้เพื่อการพาณิชย์ หรือใช้เพื่อการพาณิชย์พิเศษ ไม่สามารถทำประกันภัยประเภทดังกล่าวได้ ดังนั้น รถยนต์ที่จะสามารถทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ จึงจำกัดไว้เพียง 3 ประเภทเท่านั้น คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
ประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อ หรือ ไม่ระบุชื่อ แตกต่างกันอย่างไร?
การประกันภัยรถยนต์ประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ กับการทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ จะมีความแตกต่างในส่วนที่เกี่ยวกับความคุ้มครอง คือ ในกรณีที่เป็นการประกันภัยประเภทไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ หากความรับผิดหรือความเสียหายได้เกิดขึ้นในขณะที่มีบุคคลได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยไม่จำเป็นต้องเข้ามาร่วมรับผิดในความเสียหายส่วนแรกแต่อย่างใด
ซึ่งจะต่างจากการประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ กล่าวคือ แม้ว่าความรับผิดหรือความเสียหายได้เกิดขึ้นในขณะที่มีบุคคลที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ขับขี่ก็ตาม แต่หากบุคคลที่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยนั้นมิใช่บุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ในกรมธรรม์แล้ว ผู้เอาประกันภัยจะต้องเข้ามารับผิดในความเสียหายส่วนแรกเอง ดังนี้
- 2,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- 6,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัยที่เกิดจากการชน การคว่ำ
Comments are closed.