เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมาหลังคสช.ประกาศใช้มาตรา 44 และมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อแก้ปัญหาความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร และคุ้มเข้มวินัยจราจรนั้น นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมขนส่งทางบก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 หน่วยงานกันให้เร็วที่สุด
สำหรับใครที่ได้รับใบสั่งตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2560 และยังไม่ได้จ่ายค่าปรับ เวลาไปต่อภาษีรถ ขนส่งจะอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนสามารถจ่ายค่าปรับใบสั่งได้ทันทีที่กรมขนส่ง จ่ายแล้วก็ไม่ต้องรอนานสามารถต่อภาษีได้เลย ส่วนใครที่ไม่จ่ายค่าปรับ ณ วันที่ไปต่อภาษีรถก็ยังต่อภาษีได้ แต่!!!ขนส่งจะออกเป็นป้ายต่อภาษีชั่วคราวให้ก่อน ซึ่งจะมีอายุ 30 วันนับจากวันที่ออกเมื่อจ่ายค่าปรับแล้วค่อยมารับเอกสารตัวจริง เผื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ แต่หากเลยกำหนด 30 วันแล้ว เจ้าของรถยังไม่ไปจ่ายค่าปรับอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป สรุปแล้วก็ต่อภาษีได้เหมือนเดิม แต่ถ้าจะเบี้ยวไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งท่าจะไม่ง่ายเหมือนเดิม
ส่วนอีกประเด็นที่มีผลทันทีจากการประกาศใช้มาตรา 44 คือ รถตู้โดยสารต้องปรับปรุงที่นั่งให้เหลือ 13 ที่นั่งจากเดิมบางคันมี 15 ที่นั่งเพื่อความปลอดภัยของผู้สาร ส่วนผู้ขับขี่ที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา ทั้งคนขับและผู้โดยสารนะครับ
นี่ก็เป็นอีกมาตราการที่รัฐประกาศใช้ เพื่อรณรงค์สร้างความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารรถสาธารณะ และเพื่อคุมเข้มให้ทุกคนเคารพกฎจราจรกันมากขึ้น วิธีที่ง่ายและดีที่สุดก็คือขับรถปฏิบัติตามกฎจราจร นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังไม่เสี่ยงต่อการโดนใบสั่งด้วยจริงไหม?
ข่าวจาก :: www.posttoday.com
ภาพจาก :: www.thairath.co.th
Comments are closed.